ในปัจจุบันการเทรดออนไลน์ได้รับความนิยมจากเทรดเดอร์เป็นอย่างมาก เนื่องจากเทรดเดอร์สามารถเทรดได้ตลอด 24 ชม. ซึ่งเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วได้มากยิ่งขึ้น หนึ่งในการเทรดออนไลน์ที่มาแรงในยุคนี้ นั่นก็คือ CFD ครับ เพราะ CFD สามารถเทรดได้หลากหลายสินทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็น หุ้น, ดัชนี และสินค้าโภคภัณฑ์ เป็นต้น
ว่าแต่ CFD คืออะไร? แตกต่างจาก Forex อย่างไร ในวันนี้ทีมงาน Fxbrokerscam จะพาทุกท่านไปคลายข้อสงสัยกันครับ
CFD ถูกย่อมาจาก Contracts for Difference คือ สัญญาซื้อขายส่วนต่างของตราสารอนุพันธ์หรือที่เรียกกันว่า สินทรัพย์อ้างอิง (Underlying Asset) โดย CFD มีสินทรัพย์อ้างอิงให้เลือกเทรดหลากหลาย เช่น ดัชนี, หุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์ และ Forex เป็นต้น
จุดเด่นของ CFD คือ สามารถเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ในตลาดการเงินโดยไม่จำเป็นต้องซื้อและขายสินทรัพย์อ้างอิงใด ๆ เป็นการทำสัญญาระหว่างเทรดเดอร์และโบรกเกอร์ที่จะชำระราคา (ราคาเปิด-ปิด) ด้วยเงินสด แต่จะไม่มีการส่งมอบสินค้าหรือสินทรัพย์ที่จับต้องได้นั่นเอง
ฟีเจอร์หลัก ๆ ของ CFD สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 อย่าง ดังต่อไปนี้
CFD มีการทำสัญญาการซื้อขายในขนาดของสัญญามาตรฐาน (Lot) ที่แตกต่างกัน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับสินทรัพย์อ้างอิงที่มีการซื้อขาย
โดยปกติแล้ว การซื้อขายสินทรัพย์อ้างอิงใน CFD จะมีค่า Spread ที่ครอบคลุมทั้งราคาซื้อและราคาขาย อีกทั้งยังมีค่า Commission ที่เทรดเดอร์จะต้องจ่ายให้แก่โบรกเกอร์ที่คุณทำการซื้อขายด้วย เมื่อคุณมีการถือคำสั่งซื้อขายข้ามคืน
การซื้อขาย CFD ไม่ได้มีการระบุสัญญาการซื้อขายที่แน่นอน เนื่องจากสถานะสัญญาจะถูกปิดเมื่อการเทรดอยู่ในทิศทางตรงกันข้ามกับสถานะเปิดที่สัญญานั้น เริ่มต้นขึ้น อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาการทำสัญญามีการหมดอายุที่ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละโบรกเกอร์เป็นผู้กำหนดครับ
การซื้อขาย CFD สามารถคำนวณกำไรและขาดทุนผ่านขนาด Lot และ Pip อีกทั้งเทรดเดอร์จะตั้งจุด Stop Loss (จุดตัดขาดทุน) และ Take Profit (จุดตัดกำไร) เพื่อประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้ อีกทั้ง ยังสามารถทำกำไรได้ทั้ง 2 ทาง จากตลาดขาขึ้นและขาลง
เมื่อเทรดเดอร์เปิดสถานะ CFD แล้วนั้น เทรดเดอร์สามารถผลิตภัณฑ์ CFD ที่ต้องการเทรดได้ ยกตัวอย่างเช่น หากเทรดเดอร์เห็นว่า น้ำมันดิบ (Brent) จะมีราคาสูงขึ้นและคาดว่าจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คุณจึงตัดสินใจซื้อ CFD น้ำมันดิบ (Brent) จำนวน 5 สัญญา โดยมีราคาอยู่ที่ 6,325 ต่อ สัญญา ซึ่งสัญญาการซื้อ CFD นี้สามารถเกิดขึ้นได้ 2 ทาง ดังต่อไป
สำหรับวิธีการเลือกโบรกเกอร์ CFD นั้น เทรดเดอร์จำเป็นต้องเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณ โดยมีหลักการทั่วไปในการคัดเลือกโบรกเกอร์ CFD 7 ข้อ ดังต่อไปนี้
ความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ เช่น มีใบอนุญาต และระยะเวลาในการก่อตั้ง เป็นต้น
ความปลอดภัยด้านข้อมูล เช่น การแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ เป็นต้น
มีตราสารให้เลือกหลากหลายหรือไม่
รูปแบบการฝาก-ถอนที่สะดวกต่อผู้ใช้งาน
แพลตฟอร์มการซื้อขายสะดวกสบาย และรวดเร็วต่อการใช้งาน
ค่า Spread และค่า Commission ที่โปร่งใสและยอมรับได้
*หมายเหตุ : การเลือกโบรกเกอร์ CFD เป็นเพียงการให้ความรู้เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชี้นำแต่อย่างใด ซึ่งการเลือกโบรกเกอร์ที่ดีได้นั้น จะขึ้นอยู่กับสไตล์ของเทรดเดอร์แต่ละคน
รีวิว WOXA.COM แพลตฟอร์มซื้อขาย CFD ชั้นนำ ดีไหม? อัปเดต 2023
นาย A คาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะมีปรับตัวขึ้น ด้วยการใช้ Leverage 1:100 นาย A ได้ทำการเปิดการซื้อขายทองคำที่มีมูลค่าทองคำ $2,000 ด้วยการฝากมาร์จินอยู่ที่ $10
หากราคาทองคำเพิ่มขึ้นไปถึง $2,200 แล้วนาย A ปิดคำสั่งซื้อทองคำทันที แสดงให้เห็นว่า นาย A จะได้กำไร $200 จากต้นทุน $10
CFD มีความเหมือนและแตกต่างจาก Forex ดังตารางต่อไปนี้
ความเหมือนกัน |
ความแตกต่างกัน |
|
|
|
|
|
|
|
จากที่กล่าวมาข้างต้น เห็นได้ว่า CFD คือ สัญญาการซื้อขายส่วนต่างของตราสารอนุพันธ์ที่มีจุดเด่น คือ เทรดเดอร์สามารถเริ่มต้นการเทรดด้วยเงินเริ่มต้นที่ต่ำกว่าได้ เพราะ Leverage จะเข้ามาช่วยในการขยายผลกำไร แต่อย่างไรก็ตาม การใช้ Leverage ที่สูงเกินไปก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน เพราะมันจะทำให้คุณเสี่ยงขาดทุน จนถึงขั้นพอร์ตแตกได้
ดังนั้น เทรดเดอร์ควรศึกษาความรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์ในการซื้อขาย CFD รวมทั้งศึกษาเครื่องมือที่จะช่วยให้การซื้อขายมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญไปกว่านั้น คือ การเลือกโบรกเกอร์ CFD ที่เหมาะสมกับคุณ เพื่อให้การซื้อขายมีประสิทธิภาพที่สุดครับ
--------------------------------------------------------
สามารถศึกษาความรู้เพิ่มเติมได้จากแหล่ง ดังต่อไปนี้
อัพเดตข่าวสารการลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์ : คลิกที่นี่
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมที่น่าใช้ : คลิกที่นี่
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ที่ควรระวัง : คลิกที่นี่