ความหมายจริงๆของการเทรดแบบ Price action

การเทรดแบบ Price action

Price action การเทรดที่ทุกคนที่ลงทุนในตลาด Forex มาสักระยะจะต้องรู้จักกันเป็นอย่างดี และหลายคนก็ใช้กลยุทธ์นี้ในการเทรด Forex โดย Price action คือ การเทรดด้วยกราฟเปล่า โดยอาศัยการเคลื่อนไหวของราคา ซึ่งนิยามของการเทรดแบบ Price action ก็คือ การหาแนวโน้วการเคลื่อนที่ในอดีตที่ผ่านมา เพื่อมองหาแนวโน้มการเคลื่อนที่ในอนาคต

หลายคนฟังนิยามดูแล้วก็คงอดสงสัยไม่ได้ว่า การนำสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมาจะสามารถตัดสินผลที่จะเกิดในอนาคตได้อย่างไร คำตอบก็คือ สิ่งนั้นถูกแล้วแหละครับ หาก Price action เป็นแบบนั้นจริง ๆ มันก็คงไม่ต่างอะไรกันกับ indicator ต่าง ๆ ที่วิเคราะห์แนวโน้วในอดีต เพื่อสร้างทิศทางในอนาคต

เพราะจริง ๆ รูปแบบต่าง ๆ ที่เราได้เรียนรู้กันมาจาก Price action ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของแท่งเทียน หรือรูปแบบแพทเทิร์นของกราฟ ก็ล้วนแต่มีคนบอกกับเราเมื่อเกิดรูปแบบนั้นรูปแบบนี้ ให้ทำการ BUY ทันที หรือ SELL ทันที ทั้ง ๆ ที่เราเองก็ไม่รู้ว่าทำไม เพียงแค่ฟังไปตามสิ่งที่เขาเล่ากันมา

ซึ่งในบทความนี้จะกล่าวถึง Price action ในความคิดของผม และจากประสบการณ์ในตลาด Forex ที่มีมามากว่า 9 ปี เพื่อที่จะแชร์ความรู้ให้ทุกคนได้ฟังกันครับ

Price Action คือ?

Price action แท้จริง ๆ แล้วสิ่งที่อยู่เบื้องหลังของมันก็คือ การวิเคราะห์ความคิด และพฤติกรรมของนักเทรดส่วนใหญ่ในตลาด ไม่ว่าจะเป็นกองทุนขนาดใหญ่ หรือนักเทรดรายย่อย คุณต้องสามารถวิเคราะห์ได้ว่าพฤติกรรมของกราฟที่เกิดขึ้นในรูปแบบนี้ กำลังเกิดอะไรขึ้นกับตลาด และนักเทรดส่วนใหญ่คิดอะไรอยู่ นั้นจะทำให้เราสามารถวิเคราะห์ได้ว่ากราฟมีแนวโน้วเคลื่อนที่ไปในทิศทางใด ยกตัวอย่างเช่น

สมมุติราคาทองคำเคยขึ้นสู่จุดสูงสุดที่ราคา 3 หมื่นบาท ต่อ ทองคำ 1 บาท เมื่อราคาทองคำเคลื่อนที่เข้าใกล้ราคา 3 หมื่นบาท ผู้คนส่วนใหญ่ที่มีทองคำไว้ในครอบครองก็จะทยอยขายทองคำกันออกมา ( SELL ) เพราะว่าราคาได้ใกล้จุดสูงสุดเดิมที่เคยทำไว้แล้ว นั้นคือสิ่งที่เรียกว่าแนวต้าน

ในทางกลับกันหากราคาทองคำเคยต่ำสุดที่ราคา 1.5 หมื่นบาท ต่อ ทองคำ 1 บาท เมื่อราคาทองคำเคลื่อนที่เช้าใกล้ราคา 1.5 หมื่นบาท ผู้คนส่วนใหญ่ก็จะซื้อทองคำเก็บไว้ ( BUY ) เพราะหากราคาจะลงไปต่ำกว่าจุดนี้ คงจะเป็นไปได้ยาก นั้นคือสิ่งที่เรียกว่าแนวรับ

ถ้าหากวิเคราะห์จากตัวอย่างที่กล่าวไปสิ่งที่คุณต้องรู้จริง ๆ ก็คือ คนส่วนใหญ่กำลังคิดอะไรกันอยู่ ประกอบกับสถานการณ์ปัจจุบันว่าหากราคาทองคำเป็นที่ต้องการมากจริง ๆ เพราะว่าโลกเกิดสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ คนจึงนิยมซื้อทรัพย์สินปลอดภัยมากกว่าถือทรัพย์สินประเภทอื่น นั้นก็อาจจะไม่เสมอไปที่ราคาทองคำจะหยุดเคลื่อนที่เมื่อเข้าใกล้ราคา 3 หมื่นบาทแล้ว และนั้นเองเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำพลาดไป เพราะเข้าใจว่าหากถึงแนวต้านแล้ว กราฟต้องลงอย่างแน่นอน หรือหากถึงแนวรับแล้วกราฟต้องขึ้นอย่างแน่นอน แต่กลับลืมวิเคราะห์ปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อสิ่งที่จะวิเคราะห์

ภาพรวมการเทรดแบบ Price action

โดยสรุปแล้วการเทรดแบบ Price action ต้องวิเคราะห์มากกว่าที่จะดูแนวรับ หรือแนวต้าน แต่คุณต้องดูด้วยว่า ณ ช่วงเวลาปัจจุบันอะไรบ้างที่มีผลต่อคู่เงินนั้น ๆ คู่เงินดังกล่าวมีสภาวะไปในทิศทางใด สภาวะเศรษฐกิจของประเทศเจ้าของสกุลเงิน ดีหรือแย่ และถ้าหากคุณเข้าใจในสิ่งนี่คุณจะสามารถวิเคราะห์เรื่องอื่น ๆ ได้นอกเหนือจากการเทรด Forex ได้อีกด้วย หากจะเปรียบเทียบในเรื่องอื่นๆเช่น อาหารตามสั่งในปัจจุบันมีราคาอยู่ที่ประมาณ 30 บาท ถึง 50 บาท นั้นคือ ราคา 30 บาท คือแนวรับ และราคา 50 บาทคือแนวต้าน แต่ไม่ได้หมายความว่าอาหารตามสั่งราคา 100 บาทจะไม่มีอยู่ เพราะอาหารตามสั่งที่มีราคา 100 บาทใช้วัตถุที่ดีกว่า

การเปรียบเทียบข้างต้นคือการแสดงให้เห็นว่าอย่าพึ่งตัดสินอะไรโดยง่าย จากการวิเคราะห์เพียงด้านเดียว เพราะทุกอย่างนั้นมีปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมายที่มีผลกระทบกับมัน และผู้เขียนหวังอย่างยิ่งว่านักเทรดหลาย ๆ ท่าน จะยังมีศรัทธากับการเทรดแบบ Price action และสามารถใช้การเทรดแบบ Price action ได้ดีมากขึ้นกว่าเดิม

----------------------------------------------------------------------

สามารถศึกษาความรู้เพิ่มเติมได้จากแหล่ง ดังต่อไปนี้ 

อัพเดตข่าวสารการลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์ : คลิกที่นี่

อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมที่น่าใช้ : คลิกที่นี่

อ่านรีวิวโบรกเกอร์ที่ควรระวัง : คลิกทีนี่

อ่านบทความเพิ่มเติม : FXBROKERSCAM