Indicators เป็นสิ่งที่นักลงทุนทุกคนจำเป็นต้องรู้เมื่อเข้าสู่ตลาด Indicators เป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ในการช่วยวิเคราะห์ทางเทคนิคในการกำหนดเวลาที่เหมาะสมในการซื้อและขายหลักทรัพย์และทำการ ตัดสินใจ ซื้อขายอย่างเหมาะสม ดังนั้น ในบทความต่อไปนี้ทาง FXbrokerscam จะแนะนำตัว 5 Indicators ยอดนิยมในการเทรด เพื่อให้คุณพิจารณาตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการเทรดของคุณครับ
Indicators โดยทั่วไปหลัก ๆ จะแบ่งออกเป็น 4 หมวดหมู่ ได้แก่
1. หมวดเครื่องมือติดตามแนวโน้ม (Trend Following)
2. หมวดเครื่องมือวัดการแกว่งตัว (Oscillator)
3. หมวดเครื่องมือวัดความผันผวน (Volatility)
4. หมวดเครื่องมือแนวรับและแนวต้าน (Support/Resistance)
ซึ่งอินดิเคเตอร์แต่ละตัวจะมีการคำนวณที่แตกต่างกันและมีประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไ วันนี้เราจะมาดูอินดิเคเตอร์ยอดนิยมในตลาด Forex ที่ผู้คนทั่วโลกให้การยอมรับและใช้กันอย่างแพร่หลาย จะมีอะไรบ้างไปดูพร้อม ๆ กันเลย (ในการวิเคราะห์ด้วย Indicators ที่ดีนั้นเราควรใช้อย่างน้อยมากกว่า 1 มานำมาวิเคราะห์ควบคู่กันนะครับ)
Bollinger Band ใช้เพื่อวัดความผันผวน โดยจะเอาใช้ดูเทรนด์และการกลับตัวของราคาเป็นหลัก
โดยจะใส่ราคาลงในกล่องระหว่างเส้นขอบนอกสองเส้น และราคาจะมีการเคลื่อนที่โดยการหมุนรอบเส้นกลางอย่างต่อเนื่อง
หลักการใช้ Bollinger Band
ราคาจะซื้อขายกันอยู่ในกรอบ Bollinger Bands
ทะลุเส้นบน หมายถึง ภาวะ Overbought
ทะลุเส้นล่าง หมายถึง ภาวะ Oversold
หรือพฤติกรรมราคาไม่ทะลุด้านใดด้านหนึ่งแสดงว่าราคายังอยู่ในสภาวะเดิม
ข้อดี
ข้อเสีย
ข้อแนะนำ
Relative Strength Indicators (RSI) เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลของกราฟทางเทคนิค โดยบ่งบอกโมเมนตัมราคาว่าเป็นขาขึ้นหรือขาลงและบอกสภาวะของตลาดว่ามีเกิดการซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) โดยจะแสดงเป็นกราฟเส้นที่สามารถอ่านค่าได้ตั้งแต่ 0 – 100
หลักการใช้ RSI
เส้น RSI ตัดผ่าน 70 หมายถึง ภาวะ Over Bought
เส้น RSI ตัดผ่าน 30 หมายถึง ภาวะ Oversold
หรือพฤติกรรมราคาระดับ 30-70 แสดงว่าราคายังอยู่ในสภาวะเดิม
ข้อดี
ข้อเสีย
ข้อแนะนำ
เป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาที่กำหนด และช่วยสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในการซื้อขาย เป็นการวิเคราะห์ในตลาดที่เป็น Sideways จะเคลื่อนไหวตามโมเมนตัม ซึ่งจะเกิดขึ้นก่อนการเปลี่ยนทิศทางของราคา จึงใช้บอกสัญญาณเตือนการกลับตัวของราคาที่อาจเกิดขึ้นได้
ข้อดี
ข้อเสีย
เป็นตัวบ่งชี้ว่าปริมาณการซื้อขายที่ผ่านมานั้นมีการผลักขึ้นหรือลง และจะวัดการเปลี่ยนแปลงปริมาณเพื่อคาดการณ์ราคา OBV จะจำกัดการเปลี่ยนแปลงของราคาเพื่อปริมาณการซื้อขาย และปริมาณมากมักเกิดขึ้นก่อนการเคลื่อนไหวของตลาดที่แข็งแกร่ง
ข้อดี
ข้อเสีย
ข้อแนะนำ
เป็นเครื่องมือที่ดูทิศทางของราคา โดยเทรดตามแนวโน้ม (Trend Following) และบอกสัญญาญจังหวะการเข้าซื้อ รวมถึงสามารถเป็นเครื่องมือที่ใช้วัดความแรงของตลาดได้ว่าเป็นภาวะตลาดที่เป็นขาขึ้นหรือขาลงได้
ข้อดี
ข้อเสีย
ข้อแนะนำ
หลักการพื้นฐานการเทรด คือ เมื่อราคาเป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) เราจะ Buy เมื่อราคาปรับลงมาแล้ว และหากราคาเป็นแนวโน้มขาลง (Downtrend) เราจะรอ Sell เมื่อราคามีการเด้งกลับตัวขึ้นมา
โดยต้องคิดไว้อยู่เสมอว่าการใช้ MACD นั้น เพื่อใช้เป็นสัญญาณเตือนการ Retracement หลังจากนั้นจึงเป็นขั้นตอนการกรอบสัญญาณยืนยันด้วยวิธีการอื่น ซึ่งจะช่วยให้การเทรดของเราง่ายมากขึ้นครับ
--------------------------------------------------------
สามารถศึกษาความรู้เพิ่มเติมได้จากแหล่ง ดังต่อไปนี้
อัพเดตข่าวสารการลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์ : คลิกที่นี่
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมที่น่าใช้ : คลิกที่นี่
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ที่ควรระวัง : คลิกที่นี่