ถ้าพูดถึง คำว่า Indicator (อินดิเคเตอร์) หรือบางคน เรียกสั้น ๆ ว่า “อินดี้” Indicator ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) เป็นสิ่งที่แทบจะขาดไม่ได้เลย เป็นเครื่องมืออันทรงพลังมาก ๆ ในการเทรด Forex แม้การวิเคราะห์ทางเทคนิคจะมีหลายวิธี เช่น แนวโน้มการเคลื่อนที่ของราคา (Trend), แนวรับ-แนวต้าน (Support & Resistance), รูปกราฟแท่งเทียน (Candlestick) และรูปแบบราคา (Chart Patterns) แต่การใช้ Indicator ก็เป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญ จากนักวิเคราะห์ทางเทคนิค
Indicator (อินดิเคเตอร์) ตัวชี้วัดทางเทคนิค ซึ่งหมายถึงชุดเครื่องมือวิเคราะห์ที่ใช้กันทั่วไปในตลาดการ Forex และ Indicatorเหล่านี้สร้างขึ้นจากข้อมูลประวัติราคาของสินทรัพย์และปริมาณการซื้อขาย
นอกจากนี้ Indicator (อินดิเคเตอร์) ยังเป็นตัวชี้วัดในการเทรด Forex ซึ่งสามารถบอกข้อมูล สำหรับการเทรดของคุณ ได้แก่ การบอกแนวโน้มของกราฟแท่งเทียน ว่าจะไปในทิศทางใด รวมถึงตัว Indicator บางตัวนั้น สามารถบอกจุดที่คุณจะเปิดคำสั่งซื้อ โดยเทรดเดอร์ที่ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค จะเอา Indicator มาใช้ ในการวิเคราะห์ทิศทางของราคา และใช้ในการตัดสินใจซื้อขายในตลาด Forex
- ช่วยบอกเทรนด์ (Trend) วิเคราะห์หาทิศทาง และแนวโน้มของกราฟราคา ว่าเป็นไปในทิศทางใด
- สามารถบอกจุดทำสัญญาณซื้อ หรือขาย ได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งบอกจุดที่เราจะทำการปิดคำสั่งซื้อ
- ใช้เป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้า ช่วยลดความเสี่ยง ในการเทรด Forex เพื่อรอจังหวะซื้อขาย หรือปิดออร์เดอร์ที่ดี
- บอกจุด Stop Loss ของคุณ ได้อย่างชัดเจน ทำให้คุณมีข้อมูลตัดสินใจ ก่อนทำการเทรดต่อ
- บอกจุดที่คุณนั้น ควรที่จะ Let Profit Run อย่างชัดเจนว่าจะต้องทำอย่างไร
Indicator แต่ละตัวนั้น ถูกออกแบบมาให้ใช้งานต่างวัตถุประสงค์กัน ดังนั้น เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า Indicator ตัวที่เรากำลังเลือกใช้งานอยู่นั้นถูกออกแบบมาเพื่อ วัตถุประสงค์ใด หากนำไปใช้งานผิดวัตถุประสงค์ ก็อาจทำให้ไม่สามารถดึงประสิทธิภาพของ Indicator ตัวนั้น ๆ ออกมาได้
ถ้าจะให้แบ่งประเภทตามวัตถุประสงค์ที่ Indicators ถูกออกแบบมา สามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่
1. Indicators ที่ใช้ระบุทิศทางของแนวโน้ม เช่น Moving Average , Parabolic SAR เป็นต้น
2. Indicators ที่ช่วยในการยืนยันความแข็งแกร่ง หรือความน่าเชื่อถือของทิศทางนั้น ๆ เช่น ADX , OBV เป็นต้น
3. Indicators ที่ใช้วัดแรงเหวี่ยง หรืออัตราเร่งของราคา (Momentum) เช่น CCI, RSI , Stochastic เป็นต้น
4. Indicators ที่ใช้วัดความผันผวนของราคา (Volatility) เช่น ATR, Historical Volatility เป็นต้น
5. Indicators ที่ใช้วัดสภาพตลาดโดยรวม ซึ่งไม่ได้เฉพาะเจาะจงที่สินค้าหรือหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง หรือที่เรียกว่า Market Indicators
นอกจากนี้ยังมี Indicators อื่นๆ ที่อาจจะออกแบบมา เพื่อวัตถุประสงค์นอกเหนือจาก 5 ข้อ ที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น หรือมี Indicators บางตัว ที่ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ หลายวัตถุประสงค์ (เช่น MACD ใช้ได้ทั้งระบุทิศทาง และวัดแรงเหวี่ยงของราคา) ซึ่งเวลาที่เราจะเลือกใช้งาน Indicator ตัวใดก็ตาม เราควรรู้จักว่า Indicators ตัวนั้นๆ ถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ใด เวลานำไปใช้งานหรือแปลความหมายกราฟ จะได้สามารถวิเคราะห์สภาวะตลาดได้ดียิ่งขึ้น
แนวทางการเลือกใช้ Indicator คืออะไร?
กำหนดเทรนของกราฟให้ได้เสียก่อน (สำคัญมาก เพราะถ้ากำหนดตรงนี้ผิด คือจบเลย)
เลือกอินดี้ที่เหมาะสมสำหรับการเทรดของคุณ ไม่เกิน 2-3 ตัว อย่าใส่อินดี้มากเกินไป จะทำให้รูปแบบการเทรดของคุณมีปัญหา
อย่าใช้อารมณ์ จงเชื่อในอินดี้ของคุณ โดยปกติแล้วอินดี้มักจะทำจำนวนตาที่ถูกต้อง ประมาณ 6-10 ครั้งต่อการเทรด 10 ครั้ง
อย่าทำตัวเป็นคนเกือบรวย อย่าโยน Lot ใหญ่ๆ จำไว้ ไม่ใช่การพนัน แต่นี่เป็นการเทรดของจริง