5502
2 months ago
(Oct 03, 2024 10:36)
สำหรับโลกของตลาด Forex หรือสินทรัพย์แห่งการลงทุนอื่น ๆ นั้น ล้วนแต่ต้องอาศัยเทคนิค วิธีการ และรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุกำไรสูงสุด แต่หากเราไม่รู้คำศัพท์หรือเครื่องมือในการลงทุน ก็เปรียบเสมือบการที่เรามีอาวุธ แต่ไม่รู้วิธีการใช้งาน สำหรับบทความนี้ เราจะมาแนะนำ 1 ในอาวุธสำหรับโลกแห่งการลงทุน นั่นก็คือ แนวรับ แนวต้าน ซึ่งเป็นคำศัพท์ที่ค่อนข้างมีความสำคัญ สำหรับการดูรูปแบบกราฟ โดย เราจะใช้ แนวรับ แนวต้าน เพื่อดูทิศทางของราคาว่า ราคาจะขึ้นหรือลงอย่างไร ? แต่อย่างไรก็ตาม ความหมายที่แท้จริงของ แนวรับ แนวต้าน คืออะไร ? เราจะสามารถใช้ประโยชน์จากสองสิ่งนี้ได้อย่างไร ? เพื่อให้คุณมีความเข้าใจที่มากขึ้นเกี่ยวกับ 2 คำนี้ บทความนี้เราจะมาศึกษาถึงคำศัพท์สองคำนี้กันครับ
แนวรับ แนวต้าน คืออะไร ?
สำหรับ แนวรับ แนวต้าน คืออะไร ? ความหมายที่แท้จริงคืออะไร ทำไมเราถึงจะต้องใช้ อินดิเคเตอร์ ในการลากเส้นต่อจุด เพื่อดู แนวรับ แนวต้าน เหล่านี้ เรามาดูความหมายของสิ่งนี้กันครับ
แนวรับ คืออะไร ?
แนวรับ (Support) คือ จุดต่ำสุด 2-3 จุดขึ้นไป ที่มีนัยยะสำคัญหรือมีแรงซื้อขายจากจุด ๆ นั้น หรือเป็นจุดที่ราคาหุ้นนั้น จะไม่สามารถผ่านราคานี้ลงไปได้เลย เช่น แนวรับที่ 2 บาท คือ ไม่ว่าอย่างไร ราคาก็จะไม่สามารถลงไปต่ำกว่า 2 บาทได้ ซึ่งทำให้เราพอทำนายได้ว่า เมื่อถึงจุดที่ราคาวิ่งไปใกล้กับเส้น 2 บาท ราคาก็จะเด้งกลับและถูกแรงซื้อเข้านั่นเอง ซึ่งในจุดนี้ เทรดเดอร์ทุกท่านจะมีความเห็นตรงกันว่า ราคานี้จะเป็นราคาที่เหมาะสมในการเข้าซื้อสินทรัพย์ตัวนั้นได้อย่างปลอดภัย ซึ่งแนวรับนั้น จะใช้เรียกตรงข้ามกับแนวต้าน (Resistance) นั่นเอง
แนวต้าน คืออะไร ?
ในส่วนของแนวต้าน (Resistance) คือ จะมีความหมายที่ตรงกันข้ามกับแนวรับครับ ซึ่งเป็นจุดที่ราคาไปสูงสุด และไม่เคยไปเกินกว่านี้ได้ สำหรับการลากเส้นแนวต้านนั้น เราจะใช้หลักเทรนไลน์หรือเส้นแนวโน้มยอดสูงสุด 3 ยอดมาเป็นตัววัด เช่น เส้นราคานั้น เคลื่อนที่ไม่เคยเกิน 10 บาท แปลว่า ถ้าราคาขึ้นมาสูงใกล้เส้น 10 บาท คุณก็สามารถเข้าใจได้ทันทีว่า นักลงทุนกำลังจะเทขายหุ้นตัวนัั้น ซึ่งจุดนั้นเอง จะเป็นนัยยะสำคัญ ที่เรียกว่า แนวต้านครับ
แนวรับ แนวต้าน ใน Forex
เนื่องจากตลาด Forex นั้นมีความผันผวนเป็นอย่างมาก ทำให้เทรดเดอร์จำเป็นต้องมีเครื่องมือในการช่วยเทรดด้วย ซึ่งการเขียนเส้นแนวรับ แนวต้าน จะช่วยให้เทรดเดอร์เข้าจุดซื้อขายอย่างมีนัยยะสำคัญ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยตามเทคนิคนั้นมักใช้เป็นจุดกลับตัวของราคา และระดับความหนาแน่นของราคา หรือแท่งเทียนที่มีความหนาแน่นและเบียด ติด ๆ กัน เนื่องจากแรงซื้อขายจะเคลื่อนไหวเป็นจุดทศนิยม (Pip) ทำให้เทรดเดอร์ไม่สามารถคำนวณตัวเลขของราคาหนึ่งๆ ได้อย่างถูกต้อง เป็นเหตุให้การเขียนเส้นแนวรับ แนวต้านเป็นการคาดการณ์แท่งเทียนให้แม่นยำมากขึ้น
วิธีกำหนดระดับแนวรับและแนวต้านให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
1. สามารถใช้หาจุดในการเปิดสัญญา Buy หรือ สัญญา Sell ได้อย่างง่าย ๆ เพียงแค่ดูว่า ราคาเข้าใกล้เส้น แนวรับ แนวต้าน นั้นมีมากน้อยเพียงใด เป็นต้น แต่ว่าคุณอาจต้องใช้คู่กับอินดิเคเตอร์ตัวอื่น ๆ ด้วยนะครับ ไม่ใช่ใช้แค่ตัวเดียวแล้วจบเลย
2. ช่วยให้มองเห็นกรอบราคาของการวิ่งได้ ข้อดีประการต่อมาคือ ช่วยให้เรามองเห็นกรอบราคาของการวิ่งไปได้อย่างชัดเจน ตรงนี้เรามักจะลากทั้งเส้นแนวรับและเส้นแนวต้านควบคู่กันไปพร้อม ๆ กันนั่นเองครับ
แนวรับ แนวต้าน คืออะไร: ตัวอย่างการใช้อินดิเคเตอร์ในการหาเส้นแนวรับและแนวต้าน
เทรดเดอร์สามารถใช้อินดิเคเตอร์ หรือเครื่องมืออื่น ๆ ในการเข้ามาเป็นตัวช่วยในการสามารถหาแนวรับ แนวต้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในบทความนี้ขอยกตัวอย่าง 3 ประเภท ดังนี้
1.คุณสามารถใช้ Fibonacci ในการหาเส้น แนวรับ แนวต้าน ได้ด้วยเช่นเดียวกัน และสามารถทำนายกรอบ แนวรับ แนวต้าน ได้ค่อนข้างแม่นยำมาก ๆ เสียด้วย
2. คุณสามารถใช้การลากเส้นเทรนไลน์ โดยการกำหนดยอด สูงสุดของราคา 3 จุดแล้วลากเส้น หรือ ยอดต่ำสุดของราคา 3 จุดแล้วลากเส้น เพื่อหา แนวรับ แนวต้าน ก็สามารถทำได้
3. ใช้เส้น MA ข้อนี้ง่ายที่สุดครับ คือ การใช้เส้น SMA ในการหาแนวรับและแนวต้าน ซึ่งไม่น่าเชื่อว่ามืออาชีพมากมายบางทีก็ใช้แค่เส้น MA นี่ละครับ
สรุป
จากที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เห็นได้ว่า การเทรด Forex ของคุณ จะไม่สามารถหนีพ้นกับคำว่า แนวรับ แนวต้านได้เลย เพราะแนวรับ แนวต้าน เปรียบเสมือนแรงซื้อขายในจุด ๆ นั้น โดยที่นักลงทุนจะเห็นถึงเส้นนัยยะสำคัญครับ ดังนั้นแล้ว เทรดเดอร์ควรจำเป็นต้องทำความเข้าใจกับ 2 คำนี้ ให้เข้าใจได้มากที่สุด ประกอบกับการพร้อมที่จะศึกษาเรื่องของการใช้เครื่องมือหรือกลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อการเขียนเส้นแนวรับและแนวต้านให้เข้าใจครับ ซึ่งมันจะช่วยให้คุณเทรด Forex ได้ง่ายยิ่งขึ้นเป็นกองเลยทีเดียว รวมทั้งมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้นไปด้วย
อย่างไรก็ตาม การลงทุนใน CFD ที่มีเลเวอเรจมีความเสี่ยงสูง การลงทุนประเภทนี้อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน ดังนั้นเทรดเดอร์ควรทำความเข้าใจในความเสี่ยงก่อนเริ่มต้นลงทุนครับ
---------------------------------------------------------------------------------
สามารถศึกษาความรู้เพิ่มเติมได้จากแหล่ง ดังต่อไปนี้
อัพเดตข่าวสารการลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์ : คลิกที่นี่
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมที่น่าใช้ : คลิกที่นี่
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ที่ควรระวัง : คลิกทีนี่
อ่านบทความเพิ่มเติม : FXBROKERSCAM
ขอบคุณข้อมูลจาก : Forexlearning.co