เมื่อโลกของเราเผชิญหน้ากับวิกฤตทางเศรษฐกิจ จนทำให้ตลาดการลงทุนเกิดความผันผวนเป็นอย่างมาก แต่ทราบหรือไม่? มีหนึ่งในสินทรัพย์ที่ถูกขนานนามว่า สินทรัพย์ปลอดภัย นั่นก็คือ ทองคำนั่นเอง โดยนักลงทุนหลาย ๆ ท่านเห็นว่า ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงและผันผวนต่ำ ซึ่งสามารถลงทุนได้ทั้งการลงทุนระยะยาวและการเก็งกำไรในระยะสั้น เป็นเหตุให้ทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมจากเทรดเดอร์และนักลงทุนเป็นอย่างมาก
ในวันนี้ทีมงาน Fxbrokerscam จะพาทุกท่านไปรู้จักกับทองคำให้มากยิ่งขึ้น โดย ทองคำสามารถแบ่งการลงทุนออกมาในรูปแบบของ Gold Spot และ Gold Future ดังนั้นแล้วในบทความนี้จะกล่าวถึง Gold Spot และ Gold Future คืออะไร? สิ่งที่นักลงทุนทองคำจำเป็นต้องรู้! เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจเกี่ยวกับทองคำได้มากยิ่งขึ้น คำ 2 คำนี้คืออะไร? มีความแตกต่างกันอย่างไร? ไปหาคำตอบกันครับ
Gold Spot คือ การเทรดทองคำจริง ๆ ในตลาดโลก แต่เทรดเดอร์จะไม่ได้ทองคำจริง ๆ กลับมาในการซื้อขาย เนื่องจากการส่งทองคำจริงนั้น มีโอกาสในการเสี่ยงหายสูงเป็นอย่างมาก ทำให้เทรดเดอร์จำเป็นต้องทำการเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์และจะได้รับใบสัญญาซื้อขาย Gold Spot เป็นการเก็งกำไรส่วนต่างราคาที่ราคาทองคำจะมีหน่วยเป็นดอลลาร์สหรัฐ (USD) ต่อ 1 ออนซ์ (Ounce)
เวลาเทรด Real Time ของ Gold Spot คือ เวลา 04.00 น. ของวันจันทร์ - เวลา 04.00 น. ของวันศุกร์ (ตามเวลาประเทศไทย) และปิดทำการในวันเสาร์-วันอาทิตย์ อย่างไรก็ตามเวลาเปิด-ปิดของ Gold Spot นั้น จะขึ้นอยู่กับตลาดแต่ละไทม์โซน ยกตัวอย่างเช่น 3 ตลาดหลัก ๆ ได้แก่
ตลาด |
เวลาเปิด-ปิด |
ลอนดอน, อังกฤษ (GBP) |
เวลา 14:00 น. - 22.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) |
นิวยอร์ก, สหรัฐฯ (USD) |
เวลา 19:00 น. - 03.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) |
โตเกียว, ญี่ปุ่น (JPY) |
เวลา 07:00 น. - 14.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) |
Gold Spot กับ Forex คือ การเทรดทองคำในตลาด Forex ซึ่ง Gold Forex นี้จะเป็นการซื้อขายส่วนต่างของสัญญา หรือ CFD และเทรดเดอร์สามารถใช้บัญชีเดียวกันกับการเทรด Forex ได้ โดยในประเทศไทยนั้น การเทรด Gold Forex ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีโบรกเกอร์ให้เลือกใช้บริการหลากหลายราย และขั้นตอนการเปิดบัญชีก็สามารถทำได้ง่าย อีกทั้งยังใช้จำนวนเงินที่ไม่สูงมากอีกด้วย
Gold Future คือ สัญญาการซื้อขายทองคำล่วงหน้า โดยจุดเด่นของ Gold Future คือ สามารถซื้อก่อนขายหรือขายก่อนซื้อก็ได้ โดยที่ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นที่ค่อนข้างน้อยอีกด้วย Gold Future จึงเป็นหนึ่งในการลงทุนที่นักลงทุนหรือเทรดเดอร์ให้ความสนใจ เพราะสามารถเก็งกำไรได้ตามการคาดการณ์ของราคาทองคำทั้งในภาวะราคาทองคำขาขึ้นและขาลง
อีกทั้ง การซื้อขาย Gold Future นักลงทุนและเทรดเดอร์ไม่จำเป็นต้องวางเงินทุนทั้งหมด เพียงแค่วางหลักประกัน (Initial Margin) ก็สามารถทำการซื้อขายได้ อย่างไรก็ตาม Gold Future ก็ถือได้ว่า เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน
ความแตกต่างระหว่าง Gold Spot และ Gold Future สามารถแบ่งออกได้เป็นตาราง ดังต่อไปนี้
ราคา |
เวลา |
ปริมาณการซื้อขาย (Volume) |
หน่วยที่ใช้ |
Gold Spot อ้างอิงราคาจากราคากลางในตลาดโลก | Gold Spot สามารถซื้อขายได้ 24 ชั่วโมง |
Gold Spot มีปริมาณการซื้อขายสูง เพราะเป็นตลาดสากล |
Gold Spot จะใช้หน่วย USD |
Gold Future อ้างอิงราคาจากราคาในประเทศนั้น ๆ |
Gold Future สามารถซื้อขายได้ตามเวลาเปิดปิดของตลาดหุ้น |
Gold Future มีปริมาณการซื้อขายค่อนข้างน้อย เพราะเป็นตลาดภายในประเทศ |
Gold Future จะใช้หน่วยสกุลเงินภายในประเทศ ซึ่งขึ้นอยู่กับการเทรดผ่านโบรกเกอร์ในประเทศ |
5 ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
นโยบายการเงินของรัฐและอัตราดอกเบี้ย ถือได้ว่า เป็นปัจจัยที่มีความสำคัญต่อราคาทองคำเป็นอย่างมาก หากอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น จะส่งผลให้ราคาทองคำมีการปรับตัวลง ซึ่งตรงกันข้ามกับหากอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับตัวลดลง จะส่งผลให้ราคาทองคำมีการปรับที่เพิ่มมากขึ้น เพราะนักลงทุนและเทรดเดอร์เห็นว่า เศรษฐกิจเริ่มไม่ดีจึงทำให้หันมาลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) นั่นก็คือ ทองคำนั่นเอง
ถัดมาที่ปัจจัยที่ 2 ต้นทุนการผลิตต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเหมืองแร่และราคาน้ำมัน เป็นต้น ล้วนส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น เมื่อใดก็ตามที่ราคาน้ำมันสูงขึ้น จะส่งผลให้ราคาทองคำปรับแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ปัจจัยที่ 3 สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มอ่อนค่าลง ราคาทองคำจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เพราะนักลงทุนเห็นว่า ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่เหมาะกับการสะสมมูลค่านั่นเอง
ปัจจัยที่ 4 คือ ปัจจัยด้านเครื่องประดับ เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ เนื่องจากทองคำมักผันผวนตามความต้องการของผู้บริโภคในช่วงเวลาเทศกาลต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น เทศกาลตรุษจีน ราคาทองคำปรับตัวขึ้นสูงเป็นอย่างมาก เพราะความต้องการในตลาดเครื่องประดับที่เพิ่มมากขึ้น
ปัจจัยสุดท้ายที่ส่งผลต่อราคาทองคำ คือ ธนาคารโลก เนื่องจากหนึ่งปัจจัยที่สามารถวัดถึงความเชื่อมั่นของธนาคารโลกได้ เพราะ ทองคำ ถือเป็นสินทรัพย์ที่ใช้เป็นเงินทุนสำรองของโลก
ข้อดี-ข้อเสียของทองคำสามารถแบ่งออกตามตาราง ดังต่อไปนี้
ข้อดี |
ข้อเสีย |
|
|
เนื่องจากการเทรดทองคำได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ทำให้มีโบรกเกอร์หลายรายที่เปิดให้บริการเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้มีมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาหลอกลวงมากยิ่งขึ้นเช่นกัน ดังนั้นแล้ว สิ่งที่สำคัญสำหรับการเทรดทองคำ คือ การเลือกโบรกเกอร์เทรดทองที่ดีที่สุด โดยเทรดเดอร์มือใหม่สามารถเลือกโบรกเกอร์เทรดทองได้ตาม 3 คุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
แนะนำ 5 โบรกเกอร์เทรดทองยอดนิยม ฉบับ 2023
Gold Spot คือ การเทรดทองคำในตลาดโลก ส่วน Gold Future คือ การซื้อขายทองคำล่วงหน้าที่จะขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ในแต่ละประเทศ โดยปริมาณการซื้อขายของ Gold Spot จะมีปริมาณที่ มากกว่า Gold Future เพราะ Gold Spot เป็นการซื้อขายผ่านตลาดโลก แต่ Gold Future เป็นการซื้อขายภายในประเทศนั้น ๆ
Gold Spot มีการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง วันจันทร์-วันศุกร์
Gold Spot เป็นการเทรดทองคำจริง ๆ ในตลาดโลก เมื่อมีการซื้อขายเกิดขึ้น เทรดเดอร์จะไม่ได้รับทองคำจริงมาส่งตรงถึงบ้าน แต่จะได้รับใบสัญญาซื้อขายแทน
จากที่กล่าวไปข้างต้น สรุปได้ว่า Gold Spot คือ การเทรดทองคำในตลาดโลก โดยเทรดเดอร์จะได้กำไรจากส่วนต่างของราคา ส่วน Gold Future คือ การซื้อขายทองคำล่วงหน้า ซึ่งการเทรดทั้ง 2 ลักษณะนี้เป็นอีกตัวเลือกในการลงทุนที่มีความน่าสนใจ
อย่างไรก็ตาม ทุก ๆ การลงทุนล้วนมีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก ดังนั้นแล้ว เทรดเดอร์ควรเลือกโบรกเกอร์เทรดทองที่มีความน่าเชื่อถือ และควรติดตามข่าวสารที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ เพื่อให้การเทรดของคุณสามารถสร้างผลตอบแทนให้ดีได้มากยิ่งขึ้นครับ
------------------------------------------------------------------------
สามารถศึกษาความรู้เพิ่มเติมได้จากแหล่ง ดังต่อไปนี้
อัพเดตข่าวสารการลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์ : คลิกที่นี่
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมที่น่าใช้ : คลิกที่นี่
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ที่ควรระวัง : คลิกที่นี่
อ่านบทความเพิ่มเติม : FXBROKERSCAM