List of content

กั้นราคาไม่อยู่ ราคาน้ำมันขึ้น 1 ดอลลาร์สหรัฐหลังจากการปล่อยน้ำมันฉุกเฉิน (7 เมษายน 2565)


กั้นราคาไม่อยู่ ราคาน้ำมันขึ้น 1 ดอลลาร์สหรัฐหลังจากการปล่อยน้ำมันฉุกเฉิน (7 เมษายน 2565)

ราคาน้ำมันพุ่งกลับขึ้นมาอีกครั้งในวันพฤหัสบดี หลังจากที่ร่วงลงไปสู่ราคาต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์มากกว่า 5% โดยก่อนหน้านี้ประเทศต่าง ๆ ได้ประกาศปล่อยน้ำมันจำนวนมากออกจากคลังสำรองฉุกเฉินเพื่อชดเชยอุปทานที่สูญเสียไปจากรัสเซีย

สัญญาการซื้อขายล่วงหน้าของน้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้น 1.94% มีราคาอยู่ที่ 103.03 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาการซื้อขายล่วงหน้าของน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.73% มีราคาอยู่ที่ 97.89 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (เวลาไทย 10.26)

ประเทศสมาชิกของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศตกลงที่จะปล่อยน้ำมันกว่า 60 ล้านบาร์เรลเพิ่มเติมจาก 180 ล้านบาร์เรลของสหรัฐฯ เพื่อลดช่วยราคาในตลาดที่ตอนนี้ดูเหมือนจะเกือบไร้ช่องว่างหลังจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย

รัสเซียเรียกการกระทำของตนในยูเครนว่าเป็น "ปฏิบัติการพิเศษ" เพื่อปลดอาวุธประเทศเพื่อนบ้านทางตะวันตก

นายสตีเฟน อินเนส กรรมการผู้จัดการของ SPI Asset Management กล่าวว่า “นอกเหนือจากปล่อยคลังสำรองทั่วโลกจำนวนมหาศาล ในปัจจุบันการทำลายอุปสงค์และภาวะถดถอยเป็นเพียงเครื่องมือกลไกการลดราคาตลาดเดียวในโลกที่ปราศจากกันชน”

นายบาเดน มัวร์ นักวิเคราะห์ของธนาคารแห่งชาติออสเตรเลียกล่าวว่า “การปล่อยน้ำมันดิบสำรองครั้งล่าสุดบวกกับที่ทางประเทศในกลุ่ม IEA ประกาศออกมาเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2565 เท่ากับว่าน้ำมันดิบกว่า 1 ล้านบาร์เรลจะถูกปล่อยต่อวันในช่วงตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงสิ้นปี 2565 ซึ่งจะช่วยจำกัดราคาในระยะสั้น”

"อุปทานเพิ่มเติมจะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นขาขึ้นตลาดในระยะสั้นและหลีกเลี่ยงความจำเป็นในการลดโรงกลั่นในระยะเวลาอันใกล้" มัวร์กล่าวในบันทึกก่อนที่จะเพิ่มข้อควรระวังว่า "แต่ในปี พ.ศ. 2566 จำเป็นต้องเพิ่มการสำรองปริมาณสำรองตามที่คาดไว้ เนื่องจากความตึงตัวของตลาดล่วงหน้าโดยที่แนวโน้มอุปทานพื้นฐานยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดความเสี่ยงว่าราคาจะกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง"

การเจรจาทางอ้อมระหว่างอิหร่านและสหรัฐอเมริกาที่หยุดชะงักในการฟื้นฟูข้อตกลงปี 2558 เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของเตหะรานได้ชะลอการคว่ำบาตรน้ำมันอิหร่าน ทำให้ตลาดตึงตัวขึ้น ผู้เจรจาได้กล่าวไว้ว่า “การตัดสินใจทางการเมืองเป็นสิ่งจำเป็นในกรุงเตหะรานและวอชิงตันเพื่อเอาชนะปัญหาที่เหลือ”

จากในเนื้อข่าวก่อนหน้าที่นักวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจได้วิเคราะห์ว่า การปล่อยน้ำมันดิบจากคลังสำรองจะเป็นเพียงพลาสเตอร์ปิดแผลใช้เพื่ออุดรอยรั่วระยะสั้นเท่านั้นดูเหมือนใกล้ความเป็นจริงมากขึ้น อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นของแผนเท่านั้น ในอนาคตราคาน้ำมันดิบจะเป็นเช่นไร เราก็ควรที่จะติดตามต่อไปอย่างใกล้ชิด