List of content

Price Pattern คืออะไร ? 10 รูปแบบที่พบได้บ่อยในตลาด Forex


Price Pattern คืออะไร

ทำความรู้จักหนึ่งในเครื่องมือของเทรดเดอร์สาย Technicial อย่าง “Price Pattern” เครื่องมือที่จะช่วยให้คุณวิเคราะห์แนวโน้มราคาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จากรูปแบบของกราฟแท่งเทียน หรือรูปแบบของราคาที่เกิดขึ้นในอดีตซ้ำแล้วซ้ำเล่า 

พร้อมพาคุณไขข้อสงสัยว่า Price Pattern จะสามารถใช้งานได้จริงหรือ ? รูปแบบ Price Pattern รูปแบบใดบ้างที่เทรดเดอร์ต้องทำความรู้จัก ถ้าไม่อยากตกขบวนต้องอ่านบทความนี้ให้จบ! 

 

คำเตือน การใช้ Price Pattern เป็นเพียงหนึ่งเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มของราคาเท่านั้น ไม่ได้เป็นเครื่องมือที่การันตีว่าคุณจะสามารถทำผลกำไรจากกราฟที่เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ 100 % นักลงทุนจึงควรวางแผนการลงทุนให้ดี และศึกษาความเสี่ยงและข้อมูลให้ดีก่อนเริ่มทำการลงทุน

 

Price Pattern คืออะไร ?

Price Pattern หรือ Chart Pattern เป็นเครื่องมือวิเคราะห์แนวโน้มราคาทางเทคนิคที่นักลงทุนหลายท่านนิยมใช้ ซึ่ง Price Pattern จะเกิดจากการเรียงตัวกันของกราฟแท่งเทียน หรือกราฟราคา จนเกิดรูปแบบของราคาขึ้นมา โดยแต่ละรูปแบบก็จะบ่งบอกถึงแนวโน้มราคาที่แตกต่างกันไป

หากอธิบายให้เห็นภาพในแง่อีกหนึ่ง การเปลี่ยนแปลงของกราฟราคานั้น มักจะเกิดมาจากแรงปะทะกันของทั้งฝั่ง Demand และ Supply เมื่อเทรดเดอร์ทราบถึง Price Pattern ที่เกิดขึ้นในอดีตก็จะสามารถวิเคราะห์แนวโน้มพฤติกรรมของ Demand และ Supply ในอนาคตได้ ดังนั้น Price Pattern เลยถือเป็นเครื่องมือที่สามารถใช้คาดการณ์แนวโน้มราคาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้นั่นเองครับ

ไขข้อสงสัย Price Pattern ใช้เทรดได้จริงไหม ?

การใช้ Price Pattern ในการเทรดสามารถทำกำไรได้จริงครับ หากผู้ใช้มีทักษะและประสบการณ์มากพอ เนื่องจาก Price Pattern จะสะท้อนถึงพฤติกรรมของตลาดที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวของราคาที่เกิดขึ้นในอดีตซ้ำ ๆ ซึ่งพฤติกรรมที่กล่าวมาเหล่านี้สะท้อนมาจากทั้งผู้ซื้อ - ผู้ขาย ทำให้ Price Pattern สามารถใช้คาดการณ์แนวโน้มราคาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ แต่ทั้งนี้ก็มีเงื่อนไขที่ต้องพิจารณาควบคู่ไปด้วยครับ เช่น ความเข้าใจในตลาด, กลยุทธ์และเทคนิคต่าง ๆ รวมถึงการจัดการความเสี่ยงให้ดีก่อนเริ่มลงทุน

 

ข้อควรระวัง : Price Pattern ไม่ใช่สูตรสำเร็จตายตัว แต่เป็นเพียงแค่เครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์ในทางเทคนิคเท่านั้น


สิ่งที่ต้องทำความรู้จักก่อนใช้ Price Pattern

หากคุณต้องการใช้ Price Pattern ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ควรรู้จัก 2 องค์ประกอบสำคัญต่อไปนี้

1. Neckline

Neckline จะทำหน้าที่เหมือนเป็นเส้นแนวรับ - แนวต้านใน Price Pattern ซึ่งจะมีลักษณะเป็นเส้นตรงหรือเอียงขึ้นเอียงลงก็ได้ และสามารถมีได้หลายเส้นในบาง Pattern แต่ข้อสังเกตสำคัญของ Neckline คือ มักจะเชื่อมต่อจุดต่ำสุด - จุดสูงสุดใน Price Pattern รูปแบบต่าง ๆ เสมอ

2. Breakout Point

Breakout Point หรือจุดทะลุ เป็นจุดที่แสดงสัญญาณการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม โดยเส้นราคาจะเคลื่อนผ่านเส้น Neckline และเกิดจุดตัดระหว่างเส้น เราจะเรียกว่า Breakout Point โดย Breakout Point จะแบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้

  • Bullish Breakout คือ แนวโน้มขาขึ้น เกิดเมื่อราคาทะลุ Neckline ขึ้นไป

  • Bearish Breakout คือ แนวโน้มขาลง เกิดเมื่อราคาทะลุ Neckline ลงมา

รูปแบบของ Price Pattern มีกี่แบบ ?

โดยทั่วไปแล้ว Price Pattern จะสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้

1. รูปแบบการกลับตัวของราคา (Reversal Patterns)

รูปแบบการกลับตัวของราคา เป็นรูปแบบที่บ่งบอกให้เห็นถึงสัญญาณแนวโน้มของราคา ณ ปัจจุบันที่กำลังจะเปลี่ยนทิศทาง เช่น การกลับตัวของราคาจากแนวโน้มขาลงเป็นขาขึ้น หรือแนวโน้มขาขึ้นกลับตัวเป็นขาลงก็ได้ 

ตัวอย่าง รูปแบบการกลับตัวของราคา (Reversal Patterns) ที่พบบ่อยในตลาด Forex

  • Double Top

  • Double Bottom

  • Triple Top

  • Triple Bottom

  • Head and Shoulders Top

  • Head and Shoulders Bottom

รูปแบบการกลับตัวของราคา : Double Top

รูปแบบการกลับตัวของราคา : Double Top

Double Top คือ Pattern ที่แสดงให้เห็นว่า กราฟราคากำลังจะกลับตัวจากขาขึ้นเป็นขาลงครับ สังเกตง่าย ๆ คือ จุดด้านบน Top 1, 2 จะมีระดับเท่า ๆ กันหรือใกล้เคียงกัน และมีจุดต่ำสุดหนึ่งจุดอยู่ระหว่างจุดทั้ง 2 คล้ายตัว M ตามภาพ

 

รูปแบบการกลับตัวของราคา : Double Bottom

 รูปแบบการกลับตัวของราคา : Double BottomDouble Bottom คือ Price Pattern ที่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่ากราฟกำลังจะกลับตัวเป็นขาขึ้นสังเกตง่าย ๆ ครับ จากภาพจะเห็นได้ว่า กราฟจะเคลื่อนที่ขึ้นลงสลับกันคล้ายตัวอักษร W หรือในบางครั้งอาจจะไม่ได้เป็นสัญลักษณ์ W ชัดเจนแบบในภาพเสมอไป แต่อีกจุดที่ควรสังเกตคือ Bottom ที่ 1 และ 2 จะอยู่ในระดับเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน และจะมีตำแหน่งที่สูงที่สุดอยู่ตรงกลางระหว่าง Bottom ที่ 1 และ 2 

 

รูปแบบการกลับตัวของราคา : Triple Top

รูปแบบการกลับตัวของราคา : Triple Top

Triple Top คือ Pattern ที่มีรูปแบบคล้ายคลึงกันกับ Double Top แต่จะแตกต่างที่มีจุด Top อยู่ 3 ตำแหน่ง และมีจุดต่ำสุด 2 จุดตามภาพโดย Triple Top จะแสดงให้เห็นถึงราคาที่กำลังจะกลับตัวเป็นขาลง สังเกตจากการที่กราฟราคาขึ้นไปทดสอบกับแนวต้านถึง 3 ครั้ง แต่ไม่สามารถทะลุจุดแนวต้านได้ ซึ่งส่วนนี้จะบ่งบอกว่าแรงขายยังคงเพิ่มขึ้นและมีมากกว่าแรงซื้อ ส่งผลให้แนวโน้มราคากลับตัวเป็นขาลงนั่นเอง

รูปแบบการกลับตัวของราคา : Triple Bottom