7 สกุลเงินที่แพงที่สุดในโลก ปี 2023 ไม่มีสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐติดโพล?

หากกล่าวถึงสกุลเงินที่แพงที่สุดในโลก หลาย ๆ คนอาจจะนึกถึงสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ไม่ก็สกุลเงินยูโร แต่ทราบไหมว่า ทั้ง 2 สกุลเงินที่กล่าวมานี้ไม่ใช่สกุลเงินที่แพงที่สุด แล้วมีสกุลเงินใดบ้างที่แพงที่สุดในโลก วันนี้ทางทีมงาน Fxbrokerscam จะพาทุกคนไปหาคำตอบกันครับว่า มีสกุลเงินอะไรบ้างที่แพงที่สุดในปี 2023?

7 สกุลเงินที่แพงที่สุดในโลก ปี 2023

ในปี 2023 มีการวัดสกุลเงินที่แพงที่สุดในโลก โดยพิจาณาปัจจัยที่ส่งผลต่อสกุลเงินที่แข็งค่า ซึ่งมี 7 สกุลเงินที่มูลค่ามากที่สุดในโลก ปี 2023 มีดังต่อไปนี้

• สกุลเงินดีนาร์คูเวต

• สกุลเงินบาห์เรน

• สกุลเงินเรียลโอมาน

• สกุลเงินดีนาร์จอร์แดน

• สกุลเงินปอนด์สเตอร์ลิง

• สกุลเงินดอลลาร์หมู่เกาะเคย์แมน

• สกุลเงินฟรังก์สวิส

1. สกุลเงินดีนาร์คูเวต

รหัสสกุลเงิน KWD

อัตราการแลกเปลี่ยน 1 KWD = 3.25 USD

สกุลเงินดีนาร์คูเวต เป็นสกุลเงินที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก โดยเป็นสกุลเงินทางการของประเทศคูเวต ตั้งอยู่ในคาบสมุทรอาหรับ ทางฝั่งเอเชียตะวันตก ประวัติของสกุลเงินคูเวตนั้น ในอดีตได้ใช้สกุลเงินรูปีของอินเดียช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่หลังจากนั้น รัฐบาลคูเวตได้ตัดสินใจสร้างสกุลเงินของประเทศตัวเองขึ้น โดยการตรึงสกุลเงินดีนาร์คูเวตไว้กับดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยรักษามูลค่าของสกุลเงินดีนาร์คูเวต และเชื่อมโยงมูลค่าของสกุลเงินนี้ไว้กับตระกร้าถ่วงน้ำหนักของสกุลเงินต่างประเทศอื่น ๆ อีกด้วย

สำหรับสภาพทางเศรษฐกิจของคูเวตนั้นเติบโตเป็นอย่างมาก เนื่องจากคูเวตเป็นประเทศที่ร่ำรวยจากขายน้ำมันและเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก ส่งผลให้อัตราการว่างงานภายในประเทศต่ำมาก ทำให้มูลค่าของสกุลเงินดีนาร์คูเวตเป็นสกุลเงินที่แพงที่สุดในโลก

2. สกุลเงินบาห์เรน

รหัสสกุลเงิน BHD

อัตราการแลกเปลี่ยน 1 BHD เท่ากับ 2.65 USD

ถัดมาที่สกุลเงินที่แพงที่สุดในโลกอันดับที่ 2 นั่นก็คือ สกุลเงินบาห์เรนของประเทศบาห์เรน ซึ่งเป็นประเทศในแถบคาบสมุทรอาหรับ สกุลเงินบาห์เรนนั้นก็ถูกตรึงมูลค่าไว้กับดอลลาร์สหรัฐเช่นกัน เนื่องจากเม็ดเงินที่เข้ามาลงทุนในประเทศบาร์เรนส่วนใหญ่เป็นดอลลาร์สหรัฐ เพราะประเทศบาห์เรนเน้นส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ ประเทศบาห์เรนมีการส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศค่อนข้างมีเสถียรภาพ รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อของบาห์เรนยังอยู่ในระดับต่ำอีกด้วย

3. สกุลเงินเรียลโอมาน

รหัสสกุลเงิน OMR

อัตราการแลกเปลี่ยน 1 OMR เท่ากับ 2.60 USD

สุกลเงินเรียลโอมานของประเทศโอมานได้ถูกตรึงไว้กับดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่ปี 1970 เป็นต้นมา เนื่องจากข้อจำกัดทางการเงินที่เข้มงวด จากสถานการณ์สงครามของประเทศในแถบตะวันออกกลาง ทำให้นักการเมืองในประเทศโอมานถูกควบคุมปริมาณทางการเงิน จนเป็นเหตุให้มูลค่าของสกุลเงินเรียลโอมานมีมูลค่าสูงขึ้น 

นอกจากนี้ ประเทศโอมานยังมีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจากการส่งออกน้ำมัน การท่องที่ยว และการทำการเกษตรภายในประเทศอีกด้วย

4. สกุลเงินดีนาร์จอร์แดน

รหัสสกุลเงิน JOD

อัตราการแลกเปลี่ยน 1 JOD เท่ากับ 1.41 USD

สกุลเงินดีนาร์จอร์แดน เป็นสกุลเงินของประเทศจอร์แดน ซึ่งสกุลเงินดีนาร์จอร์แดนได้ผูกขาดไว้กับดอลลาร์สหรัฐ เพื่อดึงดูดนักลงทุนชาวอเมริกัน อีกทั้งรัฐบาลจอร์แดนยังส่งเสริมเศรษฐกิจจากการทำเหมืองแร่ จนทำให้สกุลเงินดีนาร์จอร์แดนมีเสถียรภาพเป็นอย่างมาก

5. สกุลเงินปอนด์สเตอร์ลิง

รหัสสกุลเงิน GBP

อัตราการแลกเปลี่ยน 1 GBP เท่ากับ 1.25 USD

สกุลเงินปอนด์สเตอร์ลิงเป็นสกุลเงินของสหราชอาณาจักร ซึ่งสกุลเงินนี้เป็นสกุลเงินที่อยู่ในตระกร้าพิเศษของเงินกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกอบกับที่สหราชอาณาจักรเป็นประเทศที่เศรษฐกิจมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากธนาคารกลางของอังกฤษ (BoE) ยังคงรักษาเสถียรภาพของมูลค่าเงินปอนด์ไว้ได้ ทำให้สกุลเงินปอนด์สเตอร์ลิงมีมูลค่าสูง

6.  สกุลเงินดอลลาร์หมู่เกาะเคย์แมน

รหัสสกุลเงิน KYD

อัตราการแลกเปลี่ยน 1 KYD เท่ากับ 1.21 USD

สกุลเงินดอลลาร์หมู่เกาะแคย์แมน เป็นสกุลเงินของหมู่เกาะเคย์แมนที่ตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียนฝั่งตะวันตก ในปี 1970 เป็นต้นมา สกุลเงินดอลลาร์หมู่เกาะเคย์แมนได้ถูกตรึงมูลค่าไว้กับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และหมู่เกาะเคย์แมนยังเป็นดินแดนปลอดภาษีสำหรับคนรวย จึงเป็นเหตุให้ในหมู่เกาะเคย์แมนมีการหมุนเวียนเม็ดเงินทางเศรษฐกิจเป็นอย่างดี อีกทั้งสกุลเงินดอลลาร์หมู่เกาะเคย์แมนยังมีมูลค่าสูงตามไปด้วย

7. สกุลเงินฟรังก์สวิส

รหัสสกุลเงิน CHF

อัตราการแลกเปลี่ยน 1 CHF เท่ากับ 1.11 USD

สกุลเงินฟรังก์สวิสเป็นสกุลเงินของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับฉายาว่า “หลุมหลบภัย” ของนักลงทุน เนื่องจากเป็นประเทศที่ร่ำรวยและเป็นประเทศที่ธนาคารกลางมีความปลอดภัยเป็นอย่างมากจากนโยบายการเงินที่เข้มงวด อีกทั้งประเทศสวิตเซอร์แลนด์ยังเป็นประเทศที่มีระดับหนี้ต่ำ ส่งผลให้การลงทุนมีผลตอบแทนที่ดี ถึงแม้ว่า โลกจะเผชิญกับวิกฤตสำคัญทางการเงินก็ตาม 

ปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลต่อสกุลเงิน

ปัจจัยที่ส่งผลต่อสกุลเงินแข็งค่าและอ่อนค่า มี 3 ปัจจัยหลัก ดังต่อไปนี้ 

1. สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและนโยบายทางการเงินของประเทศนั้น ๆ 

2. นโยบายการค้าระหว่างประเทศและภายในประเทศ

3. เสถียรภาพทางการเมือง

อ่านเพิ่มเติม: ปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลต่อค่าเงิน 

สกุลเงินที่แพงที่สุด ส่งต่อต่อเศรษฐกิจอย่างไร?

1. กำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น

สกุลเงินที่แข็งค่ามักทำให้ผู้อยู่อาศัยในประเทศนั้น ๆ สามารถมีกำลังซื้อสินค้าและบริการจากประเทศอื่น ๆ ได้เพิ่มมากขึ้น จากต้นทุนที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งนำไปสู่มาตรฐานการครองชีพที่สูงขึ้นและการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

2 ความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง

สกุลเงินที่แข็งค่าสามารถทำให้การส่งออกของประเทศมีราคาแพงขึ้นในตลาดต่างประเทศ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งพาการส่งออกอย่างมาก ทำให้ความสามารถในการแข่งขันลดลงทางเศรษฐกิจจะลดลงตามไปด้วย

3 การท่องเที่ยวและการลงทุนจากต่างประเทศ

สกุลเงินที่แข็งค่าทำให้การท่องเที่ยวและการลงทุนจากต่างประเทศลดลง เนื่องจากต้นทุนในการลงทุนของประเทศนั้นแพงขึ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศและการเติบโตทางเศรษฐกิจลดลง

4. การควบคุมอัตราเงินเฟ้อ

สกุลเงินที่แข็งค่าสามารถช่วยควบคุมอัตราเงินเฟ้อได้ โดยการลดต้นทุนการนำเข้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับประเทศที่พึ่งพาสินค้านำเข้าเป็นหลัก การควบคุมเงินเฟ้อจะช่วยรักษาเสถียรภาพของราคาและรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโดยรวมได้เป็นอย่างดี

5. ดุลการค้า

สกุลเงินที่แข็งค่ามักนำไปสู่การขาดดุลการค้า เนื่องจากการนำเข้ามีราคาถูกลง และการส่งออกมีราคาแพงขึ้น ทำให้ส่งผลกระทบต่อดุลการค้าของประเทศ และอาจส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมได้ด้วย

สกุลเงินที่แพงที่สุด ส่งผลอย่างไรต่อการเทรด Forex?

สกุลเงินที่แพงที่สุดในโลกนั้น เป็นที่นิยมในการเทรด Forex เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นคู่สกุลเงินที่ประกอบไปด้วยสกุลเงินหลักของโลก เพราะเป็นสกุลเงินที่มีเสถียรภาพสูงเป็นอย่างมาก ทำให้เป็นที่ต้องการในการซื้อขายตลอดเวลา ดังนั้นแล้ว เทรดเดอร์จึงสนใจการเทรดจากคู่สกุลเงินที่มีความมั่นคงที่สุด และมาจากประเทศที่มีเศรษฐกิจสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก

ความเสี่ยงของสกุลเงินที่แพงที่สุด

แม้ว่าการมีสกุลเงินที่แพงที่สุดในโลกจะบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ แต่ก็ไม่ได้รับประกันความมั่นคงหรือการไม่มีความเสี่ยงเสมอไป เพราะสกุลเงินสามารถผันผวนได้ และสกุลเงินที่มีมูลค่าสูงอาจอ่อนไหวต่อความผันผวนในตลาดโลก ดังนั้นสิ่งสำคัญที่ต้องระวัง คือ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสกุลเงิน

สรุป

จากที่กล่าวมาข้างต้นเกี่ยวกับ 7 สกุลเงินที่แพงที่สุดในโลก ปี 2023 เห็นได้ว่า แม้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจะไม่ติดโพลที่กล่าวมา แต่ดอลลาร์สหรัฐก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสกุลเงินที่มีมูลค่าสูงอันดับต้น ๆ ของโลก เนื่องจากประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีอิทธิพลทางด้านเศรษฐกิจโลกครับ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสกุลเงินที่แพงที่สุดของโลกจะมีเสถียรภาพสูง แต่สามารถอ่อนไหวต่อความผันผวนในตลาดโลกได้ ดังนั้น นักลงทุนควรศึกษาปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อการลงทุน ก่อนการตัดสินใจ

อ่านบทความเพิ่มเติม: Dollar Index (ดัชนีดอลลาร์) 

คำถามที่พบบ่อย

1. เงินดีนาร์คูเวต ทำไมถึงแพง?

คูเวตเป็นประเทศที่ร่ำรวยจากขายน้ำมันและเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก ส่งผลให้อัตราการว่างงานภายในประเทศต่ำมาก ทำให้มูลค่าของสกุลเงินดีนาร์คูเวตเป็นสกุลเงินที่แพงที่สุดในโลก

2. ค่าเงินบาห์เรน แพงไหม

สกุลเงินบาห์เรนเป็นสกุลเงินที่แพงที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 2

3. ค่าเงินแต่ละประเทศขึ้นอยู่กับอะไร?

ค่าเงินแต่ละประเทศขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ เช่น อัตราเงินเฟ้อ, อัตราดอกเบี้ย และอัตราการซื้อขายภายในประเทศ อีกทั้งนโยบายการค้าภายในประเทศและต่างประเทศ

------------------------------------------------------------------------

สามารถศึกษาความรู้เพิ่มเติมได้จากแหล่ง ดังต่อไปนี้

อัพเดตข่าวสารการลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์ : คลิกที่นี่

อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมที่น่าใช้ : คลิกที่นี่

อ่านรีวิวโบรกเกอร์ที่ควรระวัง : คลิกที่นี่

อ่านบทความเพิ่มเติม : FXBROKERSCAM