“นักลงทุน” หรือ “นักพนัน” ทำความรู้จัก Binary Option การทำกำไรแบบสองทาง

ในปัจจุบัน ทุกคนเข้าถึงโลกแห่งการเงินและการลงทุนได้อย่างอิสระ การซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ต่าง ๆ สามารถทำได้ง่ายเพียงไม่กี่ขั้นตอนด้วยปลายนิ้วของคุณ อีกทั้ง สินทรัพย์ต่าง ๆ ก็มีให้เลือกมากมายหลากหลาย แต่อย่างไรก็ดี แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่การลงทุนบางประเภทก็มีความเสี่ยงสูงกว่าการลงทุนประเภทอื่น ๆ เพราะมันอาจจะทำให้คุณหมดตัวได้เพียงไม่กี่นาที ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น มันจะต่างอะไรไปจาก “การพนัน”

ดังนั้น ในบทความนี้จึงจะพาทุกท่านไปรู้จักกับการลงทุนแบบ Binary Option หรือการทำกำไรแบบสองทางที่ถูกแบนในหลาย ๆ ประเทศ พร้อมค้นหาความจริงว่า สรุปแล้ว Binary Option เป็นการลงทุนหรือการพนัน?

การเทรดแบบ Binary Option คืออะไร?

ไบนารี่ออปชั่น (Binary Option) คือ การลงทุนในสินทรัพย์ประเภทฟอเร็กซ์ หุ้น ดัชนี หรือสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้บริการสามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ได้แบบ 2 ทาง คือ ฝั่งขาขึ้นและขาลง ไม่ว่าราคาของสินทรัพย์นั้น ๆ จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางใด ผู้ใช้บริการก็จะได้รับเงินตามอัตราที่ผู้ให้บริการกำหนด

หากเป็นเช่นนั้นก็ดูเหมือนว่า เทรดเดอร์จะได้รับประโยชน์เป็นอย่าง มาก ไม่มีเสียน่ะสิ? ไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไปครับ เพราะการทำกำไรแบบ Binary Option ถ้าไม่ได้ก็คือเสียเลย ไม่มีพอร์ตติดลบเหมือนการลงทุนแบบปกติ อีกทั้ง สัญญาของ Binary Option ยังหมดอายุเร็วมาก ๆ ทำให้คาดการณ์ได้ยาก

นอกจากนี้ ผู้ใช้บริการยังต้องแบกรับความเสี่ยงในแง่ของความน่าเชื่อถือด้วย เพราะ Binary Option ไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลจากหน่วยงานหลาย ๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทย และยังถูกสั่งห้ามในบางประเทศด้วยเช่นกัน

หลักการทำกำไรแบบ Binary Option 

Binary Option มีหลักการในการทำกำไรคล้ายกับการพนัน กล่าวคือ อนุญาตให้ผู้ใช้บริการเลือกเปิดสถานะได้เพียง 2 ทาง คือ ฝั่งขาขึ้นหรือฝั่งขาลงเท่านั้น หากการคาดการณ์ถูกต้อง ผู้ใช้บริการก็จะ “ได้รับผลตอบแทน” ตามที่โบรกเกอร์กำหนด ซึ่งจะมีตั้งแต่ 40-80% แต่หากคาดการณ์ผิด ผู้ใช้บริการจะต้อง “สูญเสียเงินทั้งหมด” ไป

ผู้ใช้บริการสามารถเปิดสถานะของ Binary Option เพื่อทำกำไรแบบ 2 ทางได้ดังนี้

1) Call Option 

Call Option คือ การเปิดสถานะเมื่อผู้ใช้บริการคาดว่า ราคาสินทรัพย์นั้น ๆ จะมีการ “ปรับตัวสูงขึ้น” ในช่วงเวลาที่กำหนด จากราคา ณ ขณะที่เปิดสถานะ

2) Put Option

Put Option คือ การเปิดสถานะเมื่อผู้ใช้บริการคาดว่า ราคาสินทรัพย์นั้น ๆ จะมีการ “ปรับตัวลดลง” ในช่วงเวลาที่กำหนด จากราคา ณ ขณะที่เปิดสถานะ

โดย Binary Option ส่วนใหญ่จะมีอายุตั้งแต่ 1-15 นาที นั่นหมายความว่า หากเวลาผ่านไปตามที่กำหนดแล้ว ราคาของสินทรัพย์นั้น ๆ มีการเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่คาดการณ์ ผู้ใช้บริการก็จะ “ชนะ” แต่หากการคาดการณ์ไม่เป็นไปตามคาด ผู้ใช้บริการก็จะ “แพ้” ดังนั้น หลาย ๆ คนจึงมองว่า Binary Option คือ การพนันรูปแบบหนึ่ง

ตัวอย่างการทำกำไรแบบ Binary Option 

หากผู้ใช้บริการเลือกทำกำไรแบบ Binary Option โดยมีสินทรัพย์อ้างอิงเป็นคู่เงิน USDJPY ซึ่งราคาปัจจุบัน คือ 141.850 หากผู้ใช้บริการรายนี้คาดการณ์ว่า ใน 5 นาทีข้างหน้า USDJPY จะปรับตัวขึ้นสูงกว่าปัจจุบัน จึงเลือกเปิดสถานะ Call Option ผลลัพธ์หลังจากนี้มี 2 รูปแบบ คือ

• USDJPY ปรับตัวขึ้นจากราคา ณ เปิดสถานะ เมื่อเวลาผ่านไป 5 นาที โดยขยับจาก 141.850 เป็นราคาใด ๆ ก็ตาม นั่นแสดงว่า ผู้ใช้บริการรายนี้คาดการณ์ถูกต้อง เขาจะได้รับเงินต้นพร้อมกับผลตอบแทนตามที่ผู้ให้บริการกำหนด

• USDJPY ปรับตัวลงจากราคา ณ เปิดสถานะ เมื่อเวลาผ่านไป 5 นาที โดยขยับจาก 141.850 เป็นราคาใด ๆ ก็ตาม นั่นแสดงว่า ผู้ใช้บริการรายนี้คาดการณ์ผิด เขาจะไม่ได้รับอะไรเลย

ความแตกต่างระหว่าง Binary Option กับ Forex

แม้ว่าการเทรดแบบ Binary Option จะสามารถทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและตลาดขาลงเช่นเดียวกันกับ Forex อีกทั้ง ยังสามารถทำกำไรจากความเคลื่อนไหวค่าเงินได้ แต่ Binary Option กับ Forex ก็มีความแตกต่างกัน ดังนี้

1) วิธีการซื้อขาย

• Binary Option : ผู้ใช้บริการสามารถเปิดสถานะได้เพียง 2 รูปแบบ คือ การคาดการณ์ในขาขึ้น (Call Option) และการคาดการณ์ในขาลง (Put Option) ภายในกรอบเวลาที่กำหนดเท่านั้น

• Forex : เทรดเดอร์สามารถเปิดสถานะ ณ ราคาตลาดได้ 2 สถานะเช่นกัน คือ คำสั่งซื้อ (Buy) เมื่อต้องการทำกำไรในช่วงตลาดขาขึ้น และคำสั่งขาย (Sell) เมื่อต้องการทำกำไรในช่วงตลาดขาลง โดยไม่มีกรอบเวลาที่กำหนด นอกจากนี้ เทรดเดอร์ยังสามารถซื้อขายคู่เงินต่าง ๆ ได้ด้วยการเปิดคำสั่งซื้อขายล่วงหน้า (Pending Order) พร้อมกับตั้งจุดตัดขาดทุนหรือกำไร (SL/ TP) เพื่อควบคุมความเสี่ยงได้

2) ผลตอบแทนที่เป็นไปได้

• Binary Option : ผลลัพธ์จากการเทรดแบบ Binary Option มีเพียง 2 ทาง คือ “ได้บางส่วน” กับ “เสียทั้งหมด” เท่านั้น ซึ่งหากคาดการณ์ถูก ผลตอบแทนจะเป็นแบบคงที่ตามอัตราที่ผู้ให้บริการกำหนด

• Forex : ผลลัพธ์จากการเทรด Forex เป็นไปได้ 2 ทางเช่นกัน คือ “กำไร” กับ “ขาดทุน” ซึ่งผลลัพธ์จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ทั้งสภาวะตลาดและทักษะของตัวเทรดเดอร์เอง ดังนั้น ผลตอบแทนจากการเทรด Forex จึงไม่คงที่ แต่ก็ยังรักษาเงินต้นไว้ได้บ้าง หากมีการความคุมความเสี่ยงที่ดี

3) ความเสี่ยง

• Binary Option : ผู้ใช้บริการต้องเผชิญความเสี่ยงจากการเทรด Binary Option สูงมาก เนื่องจากสัญญาหมดอายุเร็ว น้อยสุดคือ 1 นาที ทำให้ยากต่อการคาดการณ์ อีกทั้ง หากคาดการณ์ผิดก็ต้องสูญเสียเงินทั้งหมด นอกจากนี้ ผู้ใช้บริการยังต้องเผชิญความเสี่ยงจากความน่าเชื่อถือด้วย เพราะการเทรดลักษณะนี้ถูกแบนในหลายประเทศ ทำให้เสี่ยงที่จะโดนหลอกลวงจากผู้ให้บริการ

• Forex : เทรดเดอร์จะเผชิญความเสี่ยงจากการเทรด Forex มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับทักษะและการควบคุมความเสี่ยง ส่วนในแง่ของความน่าเชื่อถือ เทรดเดอร์จะรู้สึกมั่นใจกว่า เนื่องจากโบรกเกอร์ชั้นนำต่าง ๆ อยู่ภายใต้การกำกับดูแล ทำให้ปลอดภัยกับผู้ใช้บริการและเงินทุนของพวกเขา

4) การเข้าถึงตลาด

• Binary Option : ตัวเลือกการเทรดแบบ Binary Option จะถูกนำเสนอโดยโบรกเกอร์ออนไลน์ และส่วนมากจะให้บริการเพียงเทรดเดอร์รายย่อย

• Forex : โบรกเกอร์ที่ให้บริการเทรด Forex มีหลายระดับ ให้บริการลูกค้าทั้งเทรดเดอร์รายย่อย นักลงทุนสถาบัน และธนาคาร

5) ความยืดหยุ่นในการเทรด

• Binary Option : การเทรดแบบ Binary Option มีตัวเลือกการซื้อขายที่จำกัดและมุ่งเน้นไปที่การคาดการณ์ราคาในระยะสั้นเป็นหลัก

• Forex : การเทรด Forex จะยืดหยุ่นมากกว่าการเทรดแบบ Binary Option ในแง่ของกลยุทธ์การเทรดและการป้องกันความเสี่ยง อีกทั้ง เทรดเดอร์ยังสามารถถือครองสถานะข้ามคืนได้

จากข้างต้น จะเห็นได้ว่า การเทรดแบบ Binary Option แม้จะมีความคล้ายคลึงกับ Forex อยู่มาก แต่ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ดังนั้น เทรดเดอร์จึงจำเป็นต้องศึกษารายละเอียดต่าง ๆ ให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจลงทุน

Binary Option ผิดกฎหมายหรือไม่?

ดังที่กล่าวไปในข้างต้น การทำกำไรแบบ Binary Option มีหลักการ “คล้ายกับการพนัน” ทำให้ประชาชนและนักลงทุนเป็นจำนวนมากต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากการทำกำไรในรูปแบบดังกล่าว ดังนั้น หน่วยงานกำกับดูแลในหลายประเทศจึง “สั่งแบน” และเตือนไม่ให้ประชาชนลงทุนในตลาดนี้

ตัวอย่างหน่วยงานกำกับดูแลที่สั่งแบน Binary Option เช่น ESMA แห่งสหภาพยุโรป, ASIC ของออสเตรเลีย, CySEC ของไซปรัส, AMF ของฝรั่งเศส, BaFin ของเยอรมนี และ FCA ของอังกฤษ เป็นต้น

ส่วนในประเทศไทย ขณะนี้ยังไม่มีข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือรองรับ Binary Option โดยตรง แต่ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและส่งเสริมความรู้ผู้ลงทุน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แห่งประเทศไทย เคยเตือนให้นักลงทุนทุกคนพึงระวังในการลงทุนประเภทดังกล่าว

สรุปแล้ว Binary Option เป็นการลงทุนหรือการพนัน ? 

Binary Option นับเป็นการทำกำไรรูปแบบหนึ่งที่มีสินทรัพย์ในการใช้อ้างอิง แต่หลักการทำกำไรกลับแตกต่างจากการลงทุนในรูปแบบอื่น ๆ และมีความ “ใกล้เคียงกับการพนัน” เนื่องจากเปิดโอกาสให้ผู้ใช้บริการเลือกคาดการณ์แนวโน้มได้เพียง 2 ทาง ดังนั้น ผลลัพธ์ที่ได้จึงมีเพียงชนะกับแพ้เท่านั้น ทำให้การทำกำไรรูปแบบนี้มีความเสี่ยงสูง และ “ไม่อาจนับเป็นการลงทุนได้” ดังนั้น ทุกท่านจึงควรหลีกเลี่ยงผู้ให้บริการที่มาเชิญชวนให้ลงทุนใน Binary Option

ที่มา Investopedia, สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

คำถามที่พบบ่อย

1. Binary Option ถูกกฎหมายไหม

ในประเทศไทยไม่มีกฎหมายที่เกี่ยวกับ Binary Option โดยตรง ดังนั้นการลงทุนในลักษณะดังกล่าวจึงไม่ได้รับการคุ้มครองจากหน่วยงานภายในประเทศ ซึ่งหากนักลงทุนถูกฉ้อโกง นักลงทุนจำเป็นต้องรับผิดชอบความเสี่ยงที่เกิดขึ้นด้วยตนเอง

2. Forex กับ Binary Option ต่างกันอย่างไร?

Forex กับ Binary Option มีความแตกต่างกัน คือ Forex สามารถตั้งจุดตัด Take Profit และ Stop Loss ได้ แต่ Binary Option ไม่สามารถตั้งจุดตัดทำกำไรทั้ง 2 ได้

------------------------------------------------------------------------

สามารถศึกษาความรู้เพิ่มเติมได้จากแหล่ง ดังต่อไปนี้

อัพเดตข่าวสารการลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์ : คลิกที่นี่

อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมที่น่าใช้ : คลิกที่นี่

อ่านรีวิวโบรกเกอร์ที่ควรระวัง : คลิกที่นี่

อ่านบทความเพิ่มเติม : FXBROKERSCAM