List of content

ทำความรู้จักกับ Bid-Ask และ Spread คืออะไร?


ทำความรู้จักกับ Bid-Ask และ Spread คืออะไร?

วันนี้เรานำข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับ Forex มาฝากเทรดเดอร์ที่กำลังสงสัยเกี่ยวกับ Bid / Ask และ Spread ว่าคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร ทำไมโบรกเกอร์จึงให้เทรดเดอร์จ่ายค่าธรรมเนียมเพื่อทำการซื้อขายในตลาดสกุลเงินเป็นค่า spread ซึ่งในบทความนี้จะมาอธิบายวิธีการทำงานของค่า spread กันครับ

 

Bid-Ask และ Spread คืออะไร ?

Bid-Ask และ Spread คือ ความแตกต่างระหว่างราคา Bid และราคา Ask ของสินทรัพย์นั้น ๆ ซึ่งปกติแล้วเทรดเดอร์มักจะนำค่า Pips หรือทศนิยม 4 ตำแหน่งในการหาโอกาสทำกำไรจากค่าส่วนต่างของค่า Spread นอกจากนี้ ค่า Spread ยังเป็นต้นทุนสำหรับโบรกเกอร์ ในการสร้างกำไรอีกด้วย

 
ยกตัวอย่างของค่าทศนิยม เช่น USD/JPY มีค่าเท่ากับ 123.2323/123.4345 จะนำมาเขียนให้อยู่ในรูปแบบนี้ คือ 2323/4345 นั่นเอง

 

ค่า Spread คืออะไร?

buy sell


ค่า spread คือ ความแตกต่างระหว่างราคาที่เหล่าเทรดเดอร์ซื้อ-ขายสินทรัพย์อ้างอิง ปกติแล้ว ค่า Spread จะเป็นการคิดค่าธรรมเนียมหรือค่าบริการที่โบรกเกอร์จะคิดจากเทรดเดอร์ ดังนั้น เมื่อเทรดเดอร์เปิดออเดอร์นั้น จะเกิดการติดลบทันที เนื่องจากมีการหักลบค่า Spread นั่นเอง

 

ค่า Spread มาจากส่วนต่างระหว่าง Bid-Ask?

ราคาของคู่เงินในตลาด Forex มักมี 2 ประเภท คือ Bid และ Ask เมื่อเทรดเดอร์เปิด Order แบบ Sell จะถูกเรียกว่า "Bid Price" ในขณะที่ เมื่อเทรดเดอร์เปิด Order แบบ Buy จะถูกเรียกว่า "Ask Price" ซึ่งปกติแล้วราคา Ask จะสูงกว่าตลาดเล็กน้อยเสมอ โดยมีส่วนต่างระหว่างราคาของทั้งคู่ ซึ่งก็คือค่า Spread นั่นเอง

ดังนั้นแล้ว ราคาที่เราเห็นในกราฟนั้นเป็นราคา Bid โดยราคา Ask จะสูงกว่าราคา Bid ไม่กี่จุดเสมอ ซึ่งกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ ค่า Spread เป็นค่าคอมมิชชันที่คุณจ่ายให้กับโบรกเกอร์ของคุณ สำหรับการดำเนินการทุก ๆ ธุรกรรมนั่นเองครับ 

 

Ask-bid และ spread คืออะไร


ประเภทของค่า spread

ประเภทของค่าสเปรดขึ้นอยู่กับนโยบายของโบรกเกอร์ ค่า spread อาจเป็นได้ทั้งค่าคงที่ (Fixed) หรือลอยตัว (Floating) 

ค่า spread คงที่

ค่า Spread คงที่จะยังคงค่าเดิมไม่ว่าสภาวะตลาดจะเป็นอย่างไร หรือในเวลาใดก็ตาม ด้วยวิธีนี้คุณจะรู้ล่วงหน้าว่าคุณจะต้องจ่ายเท่าไหร่เมื่อทำการซื้อขาย ข้อดีอีกอย่างคือโบรกเกอร์จะไม่สามารถขยายช่วงกว้างได้ แม้ว่าสภาวะตลาดจะเปลี่ยนแปลง แต่อาจจะมีเกี่ยวกับค่า Commission ที่ต้องจ่ายแยกออกมาอีก

ค่า spread แบบลอยตัว

ค่า Spread แบบลอยตัวหรือผันแปรจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งอาจขยายหรือหดตัวตามอุปสงค์และอุปทานของสกุลเงิน และความผันผวนของตลาดโดยรวม ค่า Spread แบบลอยตัวมักจะเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาที่มีการประกาศข่าวสำคัญทางเศรษฐกิจ และในช่วงวันหยุดของธนาคารที่ปริมาณสภาพคล่องในตลาดลดลง เนื่องจากค่า Spread ผันแปรจะกำจัดการประสบกับการเสนอราคาใหม่ และเมื่อตลาดสงบลงอาจมีค่าต่ำกว่าค่า Spread แบบคงที่

ประเภทของค่า Spread ที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับความชอบของคุณในฐานะเทรดเดอร์ โดยทั่วไปเทรดเดอร์ที่มีบัญชีขนาดเล็กและผู้ที่ทำการซื้อขายน้อยกว่าจะได้รับประโยชน์จากการค่า Spread แบบคงที่ เทรดเดอร์ที่มีบัญชีขนาดใหญ่ที่ซื้อขายบ่อยครั้งในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน เมื่อสเปรดนั้นแคบที่สุด อีกทั้งต้องการการซื้อขายที่รวดเร็วจะได้รับประโยชน์จากค่า spread แบบลอยตัว

 

ค่า Spread เป็นเงินเล็กน้อยจริง ๆ หรือไม่?

ค่า spread ใน Forex นั้นเป็นเพียงเงินเล็กน้อย เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในตลาดหุ้นหรือตลาดออปชั่น แต่หากเราเปิดออร์เดอร์ที่มีขนาดสัญญา (Lot Size) ใหญ่ ค่า Spread ก็จะมากขึ้นตามไปด้วย เพราะว่าเมื่อค่า spread ถูกนำเสนอเป็น pips เทรดเดอร์สามารถคำนวณค่าใช้จ่ายของการซื้อขายทุกครั้งได้อย่างง่ายดาย โดยการคูณค่า spread เป็น pips ด้วยมูลค่าของ 1 pip แล้วนำมาคูณกับขนาดสัญญา 

ยิ่งช่วงเวลาการซื้อขายของคุณสั้นลงสิ่งที่สำคัญมากขึ้นคือขนาดของสเปรด ตัวอย่างเช่นหากคุณเปิดสถานะไว้เป็นเวลาหลายนาทีและกำไรของคุณคือ 10 pips ค่าสเปรด 3 pip จะหมายความว่าคุณจ่าย 30% ของกำไรของคุณสำหรับการดำเนินการซื้อขายนี้ หากคุณเปิดการซื้อขายของคุณเป็นเวลาหนึ่งวันอาจมีการเปลี่ยนแปลงราคามากขึ้น - เช่นว่าคุณจะได้รับ 100 pips ในกรณีนี้คุณจะจ่ายผลกำไรเพียง 3% เป็นค่าสเปรด ฉะนั้นคุณไม่ควรเปิดคำสั่งซื้อขายแล้วปิดบ่อยๆเพราะจะทำให้ยิ่งเสียค่า Spread ไปด้วย

 

สรุป

จากที่กล่าวมาข้างต้น แสดงให้เห็นว่า Bid-Ask Spread คือ ส่วนต่างระหว่างราคาของ Bid และ Ask 

 

------------------------------------------------------------------------

สามารถศึกษาความรู้เพิ่มเติมได้จากแหล่ง ดังต่อไปนี้ 

10 สิ่งที่น่าสนใจในตลาดฟอเร็กซ์

ปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาด FOREX มีอะไรบ้าง

อ่านบทความเพิ่มเติม : FXBROKERSCAM